1. ขนมพันตอง
ขนมพันตอง แบ่งเป็น 2 ส่วน
แยกเป็น 2 ห่อ ห่อแรก คือส่วนผสมของไส้ ประกอบด้วยมะพร้าวกับน้ำตาลปี๊บ
แล้วนำมาปั้นเป็นก้อน อีกห่อประกอบด้วย หัวกะทิ แป้งข้าวเจ้า เกลือ น้ำตาล
แล้วตักใส่ห่อ เพื่อความอร่อยยิ่งขึ้นควรจะรับประทานพร้อมกัน
เพราะตัวแป้งและตัวไส้จะอร่อยกลมกล่อมอย่างลงตัว
2. ขนมลา
ขนมลา
เป็นขนมหวานพื้นบ้านของทางภาคใต้ ของประเทศไทย ซึ่งทำมาจากแป้งข้าวเจ้า
เป็นขนมสำคัญหนึ่งในห้าชนิดที่ใช้สำหรับจัดเพื่อนำไปถวายพระสงฆ์ในงานประเพณีบุญสารทเดือนสิบ
ซึ่งเป็นงานบุญประเพณีที่สำคัญของจังหวัดในภาคใต้ เช่น จังหวัดสุราษฎร์ธานี
จังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลาโดยอุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับ ขนมลาปรุงขึ้นเพื่อเป็นเสมือนแพรพรรณเสื้อผ้า
3. ขนมเกสรชมพู่
ขนมไทยโบราณ
เมื่อได้มองครั้งแรกอาจจะคิดว่าขนมชนิดนี้คือ “ข้าวเหนียวเเก้ว” แต่ถ้าพิศมองให้ดีจะเห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน
เพราะมีลักษณะแข็งกระด้างของข้าวเหนียว ส่วนเกสรชมพู่จะดูนุ่มนวล อ่อนโยน
ที่ทำจากมะพร้าวขูดขาว ผัดกับน้ำและน้ำตาลทราย ใส่วุ้นกวนให้เข้ากันใส่สีชมพูแก่
แล้วตักใส่ถ้วย
4. ขนมโพรงเเสม
ขนมชนิดนี้ใช้ในพิธีแต่งงาน
โดยแทนเสาบ้านเสาเรือน เพื่อให้คู่บ่าวสาวอยู่กันยั่งยืนและร่ำรวย
ลักษณะคล้ายๆขนมทองม้วน แต่ขนมชนิดนี้จะมีความแตกต่างอยู่ตรงที่มีน้ำตาลเคลือบพันร้อยอยู่ที่ตัวขนม
เมื่อตัวขนมได้ถูกบดขยี้กับฟันและลิ้นที่สัมผัสรส จะให้ความรู้สึกกรุบกรอบน่ากัดกิน
ผสมกับความหวานของน้ำตาลที่เคลือบขนมอย่างลงตัวไม่ที่ไม่หวานมากนัก ก็ยิ่งทำให้ขนมชนิดนี้เหมาะสำหรับการกินเล่น
5. ขนมตูโบ้
ต้มบวดรวมมิตร
อาหารหวานท้องถิ่นภูเก็ต ทำจากถั่วแดงเม็ดเล็ก มันเทศ เผือก
และแป้งมันสำปะหลัง
ต้มรวมกันในน้ำกะทิเติมน้ำตาลและเกลือพอให้มีรสหวานนำและเค็มปะแล่ม
จะทานร้อนๆหรือเติมน้ำแข็งก็ได้
6. ขนมเทียนเเก้ว
ขนมเทียนแก้ว หรือ ขนมนมสาว
เปรียบเสมือนแสงสว่าง ลักษณะที่สวยถูกต้อง ต้องปลายแหลม
และฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส วางได้โดยไม่เสียรูปทรง
ทำจากถั่วเขียวเลาะเปลือกนึ่งสุก กวนกับกะทิและน้ำตาลทราย อบด้วยควันเทียน ปั้นเป็นก้อนกลม ๆ
นำแป้งถั่วเขียว หรือแป้งซ่าหริ่ม กวนกับน้ำตาลทราย และน้ำลอยดอกมะลิ
7. ขนมสามเกลอ
เป็นขนมเสี่ยงทายในพิธีแต่งงาน
ถ้าขนมยังติดกันทั้ง 3 ลูกในขณะที่ทอด หมายความว่า คู่บ่าวสาวที่จะแต่งงานจะอยู่ด้วยกันดี
ตลอดจนมีลูกด้วยกัน แต่ติดกันอยู่เพียง 2 ลูก หมายความว่า
มีลูกยากหรือไม่มี ถ้าแยกหรือหลุดออกทั้ง 3 ลูก หมายความว่า
อยู่ด้วยกันไม่ยืดยาว
8.
ขนมตะลุ่ม
ตะลุ่ม มีสองส่วน คือส่วนตัวขนม
ทำแป้งข้าวเจ้า แป้งเท้ายายม่อม แป้งมันสำปะหลัง น้ำปูนใส และหางกะทิ
นำไปนึ่งจนสุก ส่วนของตัวหน้า ได้แก่ หัวกะทิ
ไข่ และน้ำตาล ใส่แป้งข้าวเจ้าเล็กน้อย แล้วเทลงบนตัวที่สุกแล้วนำไปนึ่ง
เวลาเสิร์ฟตัดเป็นสี่เหลี่ยมขนาดพอดีคำหรือลักษณะตามชอบ
9. ขนมหม้อตาล
เป็นขนมโบราณ ที่ใช้ในพิธีแต่งงาน
เรียกว่า “หม้อเงิน หม้อทอง” ตัวถ้วยขนม ผสมแป้งสาลี น้ำเย็น
ไข่แดง กรุแป้งในพิมพ์หม้อตาล อบให้สุก ไส้ ผสมน้ำตาลทรายกับน้ำเคี่ยวให้ข้น
ตักใส่ถ้วย หยดสีตามต้องการ หยอดลงในพิมพ์ ให้น้ำตาลแห้ง
10.
ขนมบุหลันดั้นเมฆ
ลักษณะของขนมจะคล้ายขนมน้ำดอกไม้
เป็นขนมชาววังคิดประดิษฐ์ขึ้น ให้มีสีสันอุปมาอุปไมยเลียนแบบเพลงไทย‘บุหลันลอยเลื่อน’
ซึ่งเป็นเพลงพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 มี 2 ส่วน คือ ส่วนตัวขนม
ทำจากแป้งข้าวเจ้า แป้งมัน น้ำดอกอัญชัน น้ำตาลทราย หยอดลงบนถ้วยตะไล เมื่อนำไปนึ่งตรงกลางจะบุ๋มลงไป
ส่วนตัวหน้าขนม ประกอบด้วย ไข่ กะทิ น้ำตาล มะพร้าว และนำไปนึ่งต่อจนสุก
เมื่อรับประทานจะให้ความรู้สึกถึงความหอมหวานของน้ำดอกอัญชันกับกลิ่นน้ำตาลมะพร้าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น